Q: สวัสดีครับพี่บอนด์ พอดีว่าไม่กี่วันก่อนผมได้สังเกตไข่ของตัวเอง ปรากฏว่ามีเส้นเลือดขอด ผมเพิ่งเห็นนี่แหละครับ และก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ไง แต่ก็ไม่เจ็บอะไรนะครับ แต่มันดูแล้วน่ากลัว อยากถามว่ามันเป็นแบบนี้เพราะอะไร แล้วปล่อยทิ้งไว้จะมีผลอะไรในอนาคตมั้ยครับ?
A: ขอชื่นชมอย่างแรกครับว่า คุณเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมากเลย คนอะไรก้มไปดูไข่ตัวเอง ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าผมอธิบายอาการนี้คร่าวๆ นะครับ จะได้ทำความเข้าใจก่อนว่ามันเป็นมาอย่างไร
ชื่อเรียกเป็นทางการของอาการแบบนี้เรียกว่า “หลอดเลือดอัณฑะขอด” จะมีลักษณะเป็นลำยุ่นๆ นุ่มๆ ใต้ไข่ เกิดการพองตัวหรือขอด
ที่ขอดนั้นเกิดจากกลุ่มหลอดเลือดดำครับ มาจากลิ้นเปิดปิดหลอดเลือดดำบกพร่องทำให้เลือดดำไหลย้อนกลับ (ลักษณะเป็นแบบเดียวกับเลือดขอดที่แขน ขา) แต่กับไข่ เกิดจากหลอดเลือดดำไข่ซ้ายไหลย้อนเข้าสู่หลอดเลือดดำของไตในขณะที่หลอดเลือดดำข้างขวาจะไหลเข้าสู่ท่อเลือดดำใหญ่ (inferior vena cava) โดยตรง ดังนั้นจึงเอื้อให้หลอดเลือดดำของอัณฑะข้างซ้ายเกิดการขอดตัวได้มากกว่าข้างขวา โรคนี้มักพบในผู้ชายอายุ 15-25 ปี ครับ
www.doctor.or.th
โดยทั่วไปจะไม่มีอาการครับ แต่ถ้ามีอาการปวดก็สามารถทำนายความเสี่ยงของโรคต่างๆ ได้หลายโรคนะครับ
- อัณฑะบิดตัว จะมีอาการปวดอัณฑะอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นฉับพลัน อัณฑะบวมและแตะถูกเจ็บ ถือว่าเป็นภาวะร้ายแรงที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
- ไส้เลื่อน มักมีอาการมีก้อนบวมที่อัณฑะเวลายืน นั่ง หรือไอ และยุบหายเวลานอนราบ โดยไม่มีอาการเจ็บปวด ก้อนคลำดูมีลักษณะนุ่ม ไม่เจ็บ
- อัณฑะอักเสบ อัณฑะมีลักษณะปวดบวมแดงร้อน และอาจมีไข้ร่วมด้วย
- กร่อนน้ำ หมายถึงการเกิดเป็นถุงน้ำภายในถุงอัณฑะ มีลักษณะเป็นก้อนนุ่มที่ถุงอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง โดยไม่ยุบหายไม่ว่าจะอยู่ในท่าใด โดยไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด
- เนื้องอกในช่องท้อง / อัณฑะ
- ทิ้งไว้นานๆ ไข่ฝ่อ จะทำให้มีบุตรยาก
แต่อย่าตกใจไปนะครับ เพราะเป็นแค่อาการที่สันนิษฐานเบื้องต้น เท่านั้น ถ้าไม่มีอาการปวดบวมร่วม ก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ แต่ไปพบหมอให้ตรวจอย่างละเอียดสักหน่อยดีกว่า
ข้อมูลอ้างอิง
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 355
เดือน/ปี: พฤศจิกายน 2551
คอลัมน์: สารานุกรมทันโรค
นักเขียนหมอชาวบ้าน: รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ