เดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่คนปั่นจักรยานเต็มไปหมด แต่คุณรู้หรือไม่ครับว่า หากปั่นไม่ถูกหลักการจริงๆ อาจส่งผลถึงน้องชายได้ วันนี้ผมเลยนำความรู้จาก นพ.มนินธ์ อัศวจินตจิตร์ มาฝาก เกี่ยวกับโรคที่เกิดกับน้องชายสาเหตุจากการปั่นจักรยานครับ
- ปัสสาวะเป็นเลือด
เพราะไม่ว่าคุณจะปั่นใกล้ ไกล วิบาก เรียบ สามารถเกิดการอักเสบจากการถูกกดทับเป็นเวลานานของต่อมลูกหมากและท่อปัสสาวะกับอานจักรยาน หรืออาจเกิดจากการที่ฝีเย็บถูกกระแทกกับอานจักรยานบ่อยๆ ทำให้ปัสสาวะเป็นเลือดได้ หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดพักกิจกรรม 3-5 วัน ดื่มน้ำมากๆ นอนพัก ถ้ายังไม่หายไปต้องตรวจค้นเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุอื่นของการปัสสาวะเป็นเลือด แนะนำว่าอาจปรับอานจักรยานให้เชิดขึ้นด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อลดแรงกดที่ต่อมลูกหมากและท่อปัสสาวะ
- เส้นประสาทถูกกดทับ
คุณมักพบอาการชาบริเวณฝีเย็บและจู๋หรือไข่ได้ในปั่นบ่อยมาก ซึ่งมันสัมพันธ์กับอายุ น้ำหนักตัว และระยะเวลาที่ขี่จักรยาน มีการศึกษาพบการไหลเวียนของเลือดลดลงชัดเจนในหลอดเลือดแดงพูเดนดาล (Pudendal artery) ซึ่งเป็นหลอดเลือดแดงหลักที่มาเลี้ยงจู๋ และเส้นประสาททำให้เกิดอาการชาได้
เมื่อเกิดอาการแล้วแนะนำให้หยุดขี่จักรยานชั่วคราวตั้งแต่ 3-10 วันจนกว่าอาการจะหายสนิท และระหว่างขี่จักรยานทุก 10 นาทีควรลุกขึ้นยืนเหนืออานเป็นเวลา 20-30 วินาทีเพื่อลดแรงกดทับและให้เลือดได้ไหลเวียนในบริเวณฝีเย็บ
- หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้มากพอและนานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์จนสำเร็จได้ เริ่มมีการกล่าวถึงตั้งแต่ปี 1997 โดยศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะชื่อ Irwin Goldstein ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอาจเกิดจากการขี่จักรยาน หลังจากนั้นจึงมีการศึกษาวิจัยในหัวข้อนี้ตามมาอีกมากมาย
- มีการศึกษาในผู้ชายที่ขี่จักรยานจำนวน 688 คน อายุตั้งแต่ 18 ถึง 77 ปี พบว่าปัจจัยเดียวที่เกี่ยวข้องกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศคือการที่อายุมากกว่า 50 ปี
- พบการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในนักขี่จักรยานเสือภูเขามากกว่านักขี่จักรยานทางเรียบ
- นักขี่จักรยานที่ปรับคันบังคับให้สูงกว่าอานจักรยานจะเกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากกว่า
- ระยะทางที่ขี่จักรยาน และจุดประสงค์ของการขี่ (เช่น เป็นงานอดิเรก เพื่อการแข่งขัน เป็นมืออาชีพ) ไม่มีความสัมพันธ์กับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กันชัดเจนระหว่างการขี่จักรยานกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
อ่านต่อ ตอนที่ 2>>>
ขอบคุณเรื่องโดย นพ.มนินธ์ อัศวจินตจิตร์